หลอด LED ไฟวิ่งนั้นมีมานานแล้ว เริ่มปรากฎในแผงวงจรครั้งแรกเมื่อปี 1962 ซึ่งโดยช่วงแรกๆนั้น LED ให้ความเข้มแสงไม่มากนัก และมีใช้ในเฉพาะ ความถี่ในช่วงแสง infra-red ที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ (ซึ่งเรายังคงเห็นรูปแบบการใช้งานในช่วงแสง infra-red นี้ตามอุปกรณ์ประเภทรีโมทคอนโทรลในเครื่องใช้ไฟฟ้าตามบ้านเรือนจนปัจจุบัน) ต่อมา หลอด LED ไฟวิ่งถูกพัฒนาให้สามารถเปล่งแสงที่มองเห็นได้ โดยแสงสีแดง ถูกคิดค้นขึ้นได้ก่อน แต่ก็ยังมีความเข้มแสงที่ต่ำอยู่ หลังจากนั้น LED ก็ถูกพัฒนาเรื่อยมาจนกระทั่งสามารถให้แสงที่ครอบคลุมย่านความถี่ตั้งแต่ infrared แสงที่มองห็นไปจนถึงย่าน ultra violet หรือ UV ต่อจากนั้น หลอด LED ไฟวิ่งก็ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย ในอุปกรณ์ไฟแสดงตามแผงควบคุมต่างๆ, ในไฟแสดงตัวเลข seven segment และนาฬิกาดิจิตอล
ต่อมา LED ก็ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพด้านความเข้มแสงมากขึ้น จึงทำให้เกิดการนำเอาหลอด LED ไฟวิ่งมาใช้งานในการแสดงสัญญาณต่างๆ เช่น ไฟสัญญาณสำหรับการบิน ไฟสัญญาณจราจร และเนื่องด้วย LED มีข้อดีในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านประหยัดพลังงาน ด้านการใช้งานได้นานขึ้น การบำรุงรักษาที่ต่ำ ด้านความทนทานของตัวหลอดเอง และขนาดก็เล็กมากเมื่อเทียบกับหลอดไส้อย่างเดิม ทั้งยังปิดเปิดง่ายขึ้นแล้ว นักวิจัยและบริษัทต่างๆจึงมุ่งเน้นพัฒนาประสิทธิภาพด้านความเข้มแสงหรือความสว่างให้สูงขึ้นไปอีก เพื่อหวังที่จะนำเอาหลอด LED ไฟวิ่งมาใช้เป็นไฟฟ้าแสงสว่างในชีวิตประจำวันเพื่อทดแทนหลอดไฟแบบที่มีใช้อยู่ทั่วไปในปัจจุบัน แต่ก็ติดปัญหาเรื่องการทำให้ LED มีแสงสีขาว เหมือนหลอดไฟทั่วไปไม่ได้ http://sandyled.com/
ามธรรมชาติ อะไรที่หมดอายุขัยย่อมร่วงโรยไป เปิดทางให้สิ่งใหม่เข้ามาแทนที่ ผมของคนเราก็เช่นกันค่ะ สามารถ จะผมร่วงได้ ตลอดชีวิตคนเรามีเส้นผมประมาณ 80,000-1,200,000 เส้น แต่ละเส้นงอกยาวขึ้นวันละประมาณ 0.35 มม. และมีอายุ 2-3 ปีก่อนหลุดร่วงไป โดยปกติแล้ว ในวันหนึ่งๆ เส้นผมคนเราหลุดร่วงประมาณ 30-50 เส้น แต่ถ้าผมของเราร่วงมากกว่านั้นถือว่าผมร่วงมากผิดปกติแล้ว ยิ่งหากปล่อยไว้นานเข้าอาจทำให้ผมบางหรือศีรษะล้านก่อนวัยอันควรได้ ดังนั้นควรหาสาเหตุให้พบเพื่อหาทางป้องกันและรักษาอย่างถูกวิธี
