สะท้อนภาพลักษณ์สินค้า

สวัสดีครับหลังจากไม่ได้เขียนรีวิวกันนานเลยวันนี้นี่เองเราก็มาพูดถึงอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งครับ ที่เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวสำคัญสำหรับคนทำธุรกิจด้านอาหารปิ้งย่างเลยก็ว่าได้ นับว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยครับสำหรับเตาประเภทนี้ แต่ก่อนซื้อแนะนำให้ไปอ่านข้อควรระวัง และข้อควรเลือกซื้อด้วยนะครับ ผมว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เลย ซึ่งในส่วนการเลือกซื้อเตาปิ้งย่างเราเองก็ควรดูตัวเราด้วยนะครับว่า เราเหมาะกับการเลือกใช้งานของเราหรือเปล่า หรือว่าเกินตัวจนเกินไป

สำหรับวันนี้ผมก็จะมารีวิวเตาปิ้งย่างตัวหนึ่งครับ ซึ่งเป็นยี่ห้อ Nanotech รุ่น ET-K-21 ซึ่งเตาปิ้งย่างตัวนี้นะครับ เป็นเตาปิ้งย่างที่ใช้ระบบแก๊สครับ หัวเตาเป็นระบบอินฟาเรด มีการให้ความร้อยอย่างสม่ำเสมอผลิตจากวัสดุชั้นดีในระดับหนึ่งก็ว่าได้เลยครับ โครงสร้างเหมือนเลส มีวาวเปิดเร่งความร้อยสองข้างแบ่งครึ่ง มีการทำความสะอาดง่าย ดูแลง่าย ดีไซน์และรูปแบบการออกแบบนั้นดูสวยงามมาก ๆ เลยครับ

สำหรับการแนะนำในการใช้งานเตาปิ้งย่างอันนี้นะครับ แนะนำให้ไปปิ้งพวกบาร์บีคิวนี่ท่าจะเหมาะมาก ๆ เลยครับ เพราะเตาปิ้งประเภทนี้มีคุณสมบัติอันโดดเด่นนั่นก็คือมีความร้อน และให้ความร้อนเสมอกันครับ ดังนั้นการที่ปิ้งอาหารประเภทเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ผมว่าน่าจะได้รสชาติที่โอเค และมีความสม่ำเสมอเท่ากันเลยหล่ะครับ ยังไงถ้าผู้อ่านมีความคิดเห็นว่าอย่างไรก็ลองเข้ามาแชร์ให้อ่านกันดูได้ครับ สำหรับใครที่สนใจสินค้านี้ลองสอบถามและดูรายละเอียดที่ http://sangthaigas.tarad.com ดูก็ได้ครับ จะพบว่ามีเตาปิ้งย่างหลายรุ่นให้เลือกซื้อ เลือกหากันได้ตามสบายเลยครับ

พอดีมีคนมาแนะนำเรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับการท่องเที่ยวในเว็บนี้ ผมเลยคิดว่าอาจจะยังไม่พอครับ เราควรจะเที่ยวประเทศพม่าแบบศึกษาน่าจะดูดีมีสาระมากกว่า วันนี้ผมเองก็จะมาเล่าเกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศพม่ากันอย่างคร่าว ๆ ว่าส่วนใหญ่แล้วคนที่นี่เขาทำอะไรกัน แล้วเขามีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ในรูปแบบใด เขาอยู่มีความสุขสบายกันไหม เราควรจะศึกษาดูครับ ซึ่งผมคิดว่าถ้าเราท่องเที่ยวโดยดูวิถีชีวิตความเป็นอยู่ โดยถ้าเจออะไรดี ๆ ก็เอามาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีอย่างแน่นอนครับ

สำหรับเศรษฐกิจประเทศพม่านั้นสิ่งแรกที่สำคัญเลยก็คือเรื่องของการทำเกษตรกรรมครับ ซึ่งก็ไม่ต่างจากประเทศเราเท่าไหร่มากครับ เพียงแต่ประเทศเขาเน้นในเรื่องของเกษตรกรรมอยู่เป็นอาชีพหลักของคนที่นี่ส่วนใหญ่ ส่วนเขตเกษตรกรรมที่ทำกันนั้นส่วนใหญ่ตั้งอยู่ที่บริเวณดินดอนสามเหลี่ยม ตรงแม่น้ำอิรวดี ซึ่งอาชีพเกษตรกรรมส่วนใหญ่เน้นการปลูกข้าวเจ้า การปลูกปอกระเจา การปลูกอ้อย และพืชอื่น ๆ ที่อยู่ในเมืองร้อน

ส่วนอาชีพเกษตรกรรมอื่น ๆ ของประเทศพม่า ผมจะมาเล่าให้อ่านกันทีหลังครับ ซึ่งตรงนี้นับว่าเป็นสิ่งที่เราในฐานะที่เป็นนักท่องเที่ยวควรรู้และศึกษาไว้ครับ เพราะการเดินทางไปเที่ยวในแต่ละประเทศไม่ว่าจะประเทศไหนก็แล้วแต่ ถ้าเราศึกษารูปแบบชีวิต วิถีความเป็นอยู่ ความเชื่อ ความถือ เก็บข้อมูลรายละเอียดได้มากพอ จะเป็นเครื่องเตือนสติกับตัวเองครับว่าอย่าไปทำอะไรผิด ๆ เสีย ๆ หาย ๆ กับประเทศของเขา ซึ่งนั่นหมายถึงชื่อเสียงของประเทศคนที่ปฏิบัติเหล่านั้นด้วยครับ ถ้าใครสนใจทัวร์ประเทศพม่า แนะนำให้ติดต่อกับบริษัทนี้เลยครับ แต่ดูรายละเอียดเรื่องแพคเกจทัวร์ในแต่ละช่วงด้วยครับว่าถูกใจหรือเปล่า http://www.earththaitravel.com/myanmar/myanmar.php

สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาสอนทำอาหารสูตรเด็ดครับ แต่ก่อนอื่นเลยต้องขอทักท้วงถ้าใครอยากทำอาหารเพื่อขายตามตลาดนัดแนะนำเมนูง่าย ๆ เลยครับนั่นก็คือทอดมัน ถ้าใครไม่รู้รายละเอียดลองเข้าปอ่านวิธีการทำทอดมันได้ที่นี่ สำหรับเมนูสูตรเด็ดในบทความนี้นะครับนั่นก็คือสะตอผัดกะปิกุ้งสดครับ สะตอนี่นับได้ว่าขึ้นชื่อและลือเลื่องสำหรับเป็นส่วนผสมทำให้อาหารมีรสชาติที่จัดจ้านระดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ ส่วนใหญ่นิยมใช้กับอาหารของทางภาคใต้ แต่ก็ยอมรับครับว่ากลิ่นสะตอนี่แรงมาก

มาสอนทำอาหารกันต่อ อิอิ เดี๋ยวมาออกนอกทะเลไป มาดูในเรื่องของส่วนผสมกันก่อนครับว่าประกอบไปด้วยอะไรบ้างอันดับแรกเลยก็จะมีสะตอ กะปิ กุ้งชีแฮ กระเทียมกลีบเล็ก หอมแดง น้ำตาลทราย น้ำมะนาว น้ำมันพืช และพริกเหลืองหรือว่าพริกขี้หนูแดงสดครับ ส่วนผสมมีเท่านี้ครับ ให้ไปหาซื้อมาไว้เลย อาจจะตามตลาดก็ได้ หาได้ง่ายอยู่แล้วครับ อย่างสะตอนี่อาจจะหายากหน่อย แต่ก็คงจะไม่ยากเกินไป

สอนทำอาหารลำดับต่อมาเป็นเรื่องการปรุงเครื่องแกงก่อนครับ ให้เอากระเทียม กระปิ พริก และหอมแดงโขลกใส่ครกด้วยกันครับตำให้ละเอียดเลย เราจะได้พริกแกงที่มีรสจัดจ้านจริง ๆ ครับ ส่วนวิธีการทำสะตอผัดกะปิกุ้งสดก็จะมีดังนี้ครับอย่างแรกเลยให้ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอแต่ให้ร้อนก่อนครับ พอร้อนได้ที่เราก็เอาพริกแกงที่ตำไว้เนี่ยเทลงไปและผัดในกระทะเลยครับ กลิ่นนี่จะแรงมากอาจจะทำให้จามเลยก็ว่าได้ ล้างกุ้งให้สะอาดนะครับ เด็ดหัวหลังให้เรียบร้อยแล้วก็ใส่ลงไปผัดร่วมทีนี้ก็รอดูครับว่ากุ้งจะสุกเมื่อไหร่  สุกแล้วก็เติมมะนาวลงไปหน่อยครับ พร้อมเสริฟรับประทานได้ทันที http://www.mlpuang.com/

พอดีนั่งหาข้อมูลเกี่ยวกับสมุนไพรที่จะสามารถรักษาโรค หรือว่าทำให้ทุเลาจากโรคมะเร็งได้ ก็ไปเจอเว็บนึงมาครับ เขาเชิดชูและชื่นชมบุคคลท่านหนึ่งเอามาก ๆ ถ้าใครอยากอ่านลองเข้าไปอ่านที่บทความนี้ดูนะครับ ซึ่งเขียนไว้น่าสนใจเลยทีเดียว บุคคลที่ผมเอ่ยถึงนั้นก็คือท่านคุณหมอสมหมาย ทองประเสริฐ ผู้ที่ใช้สมุนไพรรักษาและบรรเทาอาการป่วยจากโรคมะเร็ง คิดไปคิดมาคนเป็นแพทย์หรือว่าเป็นหมอนี่ก็ดีเหมือนกันนะครับ แบบว่ารู้เรื่องที่อยู่กับตัวเรามากที่สุด

ร่างกายของคนเราบางทีก็ออกไปหาอย่างอื่นจนลืมมองดูที่ตัวของเราเอง ว่าร่างกายและจิตใจของเรานั้นสำคัญที่สุด ผมว่าชีวิตของคนที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง และอาการทรุดหนักลงไปอย่างเรื่อย ๆ ผมว่าย่อมมีความอาลัยเป็นอย่างแน่นอนครับ คุณหมอสมหมายเองนับว่าเป็นผู้ที่ช่วยให้เรานั้นมีเวลายืดเยื้อมากพอให้พูดคุย ทำความเข้าใจและฝากฝังกัน ก่อนที่จะจากกันไป ถึงแม้ว่าโรคนี้อาจจะยังรักษาไม่หายขาด แต่ก็สามารถยืดเยื้อเวลา และทำให้รู้สึกทุเลาขึ้นมาได้บ้าง

หมอสมหมาย เดิมทีก็รักษาผู้ป่วยที่ รพ.ศิริราชฯ ครับ แต่หลังจากที่ท่านสงสัย และครุ่นคิดมาตลอดจากการถามผู้ป่วยว่ากินอะไร ทำไมอาการถึงไม่หนักและรุนแรงมากนัก ปกติคนเป็นโรคมะเร็งเนื้อเยื้อก็อาจจะเริ่มตายขึ้นมาบ้าง ปากเป็นแผลเพราะน้ำเหลืองก็อาจจะไม่ดีแล้ว การที่คุณหมอถามจากผู้ป่วยแล้วนำมาศึกษาต่อ ผมว่าเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ ครับ เพราะการศึกษาของคุณหมอ ทำให้คนป่วยอีกหลายรายนั้น ไม่ต้องทุรนทุรายมากมายนัก ถึงแม้จะรู้ตนว่าจะตายวันตายคืนในเวลาอีกไม่นาน แต่ก็ยังพอทำให้ชีวิตของคนเราได้สั่งเสียอาลัยกับคนรอบข้างได้อย่างหมดจดเช่นเดียวกัน ถ้าใครสนใจสมุนไพรบรรเทาอาการโรคมะเร็งของคุณหมอสมหมาย ลองไปศึกษาและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์นะครับ http://www.gherbshop-mt.com/